แพ้เป็นพระ ซิงเกิ้ลใหม่เร็วๆนี้ ของค่าย คอนเทนเนอร์ เรคคอร์ด เป็นเพลงที่ตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อเป็นกุศโลบายสอนใจวัยรุ่น แสดงให้เห็นว่าแม้จะเสียใจในความรักเท่าไหร่ ถึงขนาดหนีไปบวชเป็นพระก็แล้ว ก็ยังไม่มีทางหลุดพ้นทุกข์ได้ หากแต่ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ใจของเราที่ต้องปล่อยวางให้ได้ต่างหาก
หลังจากเตรียมตัวลดน้ำหนักมาหลายวัน! และก็แน่นอนคือซ้อมร้อง เช้าวันที่ 10 กันยายน 2564 ก่อนออกเดินทางฝนก็เทลงมาเอาฤกษ์เอาชัย จุดมุ่งหมายวันนี้คือห้องอัดของ อ.ดุ่ย เชียงรัมย์ ที่อยู่ห่างออกไปถึง 100 กิโลเลยทีเดียว
1. เลย ความพร้อมจะไม่ร้อยเปอร์เซนต์เพราะมีงานคิวทำไกด์ทุกวัน เเต่ก็พยายามรอนให้ไวมากๆก่อนวันอัด ตื่นเช้าเดินทาง มีฝนตกตลอดทางเป็นอุปสรรคมากๆ ทำไห้ไปถึงห้องอัดช้าไป 30 นาที เป็นผลให้ไม่ได้กินข้าวเที่ยงก่อนอัด
พอไปถึงห้องอาจารยดุ่ยเชียงรัมย์ ยอมรับว่าเป็นกันเองมาก หาน้ำท่าต้อนรับเป็นอย่างดี พูดคุยดีมากๆ ถึงจะเป็นเพียงห้องเล็กๆแต่เปี่ยมไปด้วยอุปกรณ์ระดับไฮเอ็นเลยทีเดียว ทำให้ผมอึ้งเเละชอบมากเนื่องจากผมก็เป็นคนทำดนตรีอยู่แล้วด้วย จึงพูดคุยเรื่องอุปกรณ์ถูกคอกันมันทำให้ความตื่นเต้นในการอัดไม่มีเลยสักนิดเดียว เรื่องอุปกรณ์คงไม่พูดถึงไม่งั้นยาวเพราะหมดห้องนั่นคงหลักครึ่งล้าน ใครที่อยู่ใกล้กับจังหวัดบุรีรัมย์ แนะนำว่าให้มาที่นี่เลยครับ
จากนั้นก็เข้าไปวอมเสียง สองรอบ ก่อนอัดจริงเลย เริ่มประมาณบ่ายสองโมง ยาวถึง ห้าโมงครึ่ง โดยไม่ได้พัก มีเเค่น้ำขวดเดียว เเต่ก็ดีเพราะเพราะอารมในการร้องจะได้ต่อเนื่องดีมาก
เริ่มขึ้นเพลง แพ้เป็นพระ มาก็ยากเลย “เอ๋า… ฮะนี้ … ละนาง…” และเป็นท่อนที่ร้องยากที่สุดของเพลง ทำเอา เพชร ไดอารี่ แทบหมดแรง เราได้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการร้องหลายครั้ง ทั้งสำเนียง และลูกเอื้อนต่างๆ ให้ไปในทางสุดสะแนน แต่ก็ยังคงความใหม่ตามรูปแบบของเสียงดนตรีที่วางแนวทางไว้
อ.ดุ๋ย เชียงรัมย์ เป็นคนคุมร้องเพลง แพ้เป็นพระ ให้ ไอเดียต่างๆ และแนะนำรูปแบบการเอื้อนใหม่ๆ ให้ เพชร ไดอารี่ ลองใช้ดูในเพลง ระหว่างอัดก็มีฝนตกบ้างแต่ห้องอัดของ อ.ดุ๋ย เชียงรัมย์ นั้นอย่างคุณภาพเสียงฝนไม่ได้เป็นอุปสรรคของการทำงานแม้แต่น้อย เมื่อเวลาผ่านไป 5 ชม. เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ เราได้ผลงานเสียงที่พอใจ มีการเปลี่ยนแปลงคำไปบ้างจากต้นฉบับเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนฟังได้หลากหลายมากขึ้น และมีการเปลี่ยนโน๊ตบางตัวเพื่อให้เข้ากับความเป็นตัวของตัวเองของนักร้องให้มากขึ้น
แต่บอกเลยไม่ได้ร้องแบบนี้มานานมากตั้งเเต่มัธยม เพราะห่างมากะจะวางมือทำดนตรีอย่างเดียว แต่ต้องมีลิขิตได้มาร้องอีกจนได้ ผลที่ตามมาคือ ผมหมดไว เหนื่อยมากๆ ใช้ลมไปจนหมด พอดี
ขากลับร่ำลาอาจารย์ ถ่ายรุปคู่กับน้องนนท์และอาจารย์ดุ่ย ที่พีคก็คือ ฝนตกตลอดทางอีก 555 กลับถึงบ้าน 20.30 เนื่องจากอำเภอที่มาอัดมันไกลจากบ้านประมาน 80-100 กิโล เเต่อยู่ในบุรีรัมย์ เป็นอันดีใจที่เสร็จสิ้นภาระกิจอัดเสียงแบบตั้งใจสุดๆ ผ่านไปด้วยดี ถึงเราจะไม่ใช่เสียงอินดี้ร้อยเปอร์เซ็น เเต่ผมก็มีเสียงเพราะให้ทุกคนได้ฟังอย่างนอนครับ
ขอบคุณพี่ Jack คอนเทนเนอร์ เรคคอร์ด ที่สู้ด้วยกัน และเอาน้องไปร่วมสร้างฝันด้วย เชิญชมรูปภาพและคลิปบรรยากาศด้านล่างครับ